Page 131 - BTSGroup ONE REPORT 2021/22_TH
P. 131
บริิษััท บีทีเอส กริุป โฮลดิ้ิ�งส์ จำำ�กัดิ้ (มห�ชน) 4.4 การวิิเคราะห์์และคำาอธิิบายของฝ่่ายจััดการ 129
ริ�ยง�นปริะจำำ�ปี 2564/65
ดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทยังคงติดตามและหาข้อ สินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
สรุปอย่างต่อเนื่องและจะประเมินผลกระทบดังกล่าวเมื่อข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์มีการ ลดลงทั้งจำานวนจาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน 4,086.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่
เปลี่ยนแปลงไป เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จำากัด (บริษัทย่อย)
และบริษัท มาเจสติค พาร์ค จำากัด (บริษัทย่อย) ซึ่งกลุ่มบริษัทได้ขายเงินลงทุน
ลูกหนี้ที่จะถึงกำาหนดชำาระในอนาคตภายใต้สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ณ วันที่ 31 ในบริษัทย่อยสองแห่งนี้ ในเดือนมิถุนายน 2564 และเดือนมีนาคม 2565 ตามลำาดับ
มีนาคม 2565 มีจำานวน 49,604.0 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ถึงกำาหนดชำาระภายใน
หนึ่งปี 13.0 ล้านบาท และส่วนที่ถึงกำาหนดชำาระเกินกว่าหนึ่งปี 49,591.0 ล้านบาท ลูกหนี้จากการขายที่ดิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน 2,281.7 ล้านบาท เป็นลูกหนี้
โดยทั้งหมดเพิ่มขึ้น 6,580.9 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน จากการขายที่ดินของบริษัทฯ จำานวนสองแปลงในเดือนธันวาคม 2563 และแปลงสุดท้าย
43,023.1 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่างานออกแบบและก่อสร้างงานโยธาที่เกี่ยวข้อง ในเดือนเมษายน 2564 โดยลูกหนี้ดังกล่าวจะมีการชำาระเงินภายในเดือนธันวาคม 2566
กับโครงการรถไฟฟ้าสีชมพูและสายสีเหลืองสำาหรับส่วนที่จะได้รับค่าตอบแทนคงที่
ตามที่ระบุไว้ในสัญญา กลุ่มบริษัทได้พิจารณาค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า เงินลงทุนในบริษัทร่วม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน 48,262.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จะเกิดขึ้นและการจัดประเภทของลูกหนี้ดังกล่าว ตามหลักการเดียวกันกับลูกหนี้ 15,429.9 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน 32,832.6 ล้านบาท
ภายใต้สัญญากับหน่วยงานภาครัฐ ตามที่กล่าวไว้ในวรรคก่อน สาเหตุหลักมาจากการลงทุนในหุ้นเพิ่มทุน (Rights Offering) ของ ยู ซิตี้ และจากการ
เข้าลงทุนใน Jaymart
ลูกหนี้ภายใต้สัญญาซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
มีจำานวน 21,503.8 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ถึงกำาหนดชำาระภายในหนึ่งปี 69.1 ล้านบาท ต้นทุนโครงการรถไฟฟ้า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน 52,198.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
และส่วนที่ถึงกำาหนดชำาระเกินกว่าหนึ่งปี 21,434.7 ล้านบาท โดยทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9,662.4 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน 42,535.8 ล้านบาท เนื่องจาก
1,502.1 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 จากการให้บริการตามสัญญา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
ซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) และสัญญางานเพิ่มเติมอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กลุ่มบริษัทได้พิจารณาค่าเผื่อผลขาดทุน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน 9,177.5 ล้านบาท
ด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และการจัดประเภทของลูกหนี้ดังกล่าว ตามหลักการเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2,948.6 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน 6,228.9 ล้านบาท
กับลูกหนี้ภายใต้สัญญากับหน่วยงานภาครัฐ ตามที่ได้กล่าวไว้ในวรรคก่อน สาเหตุหลักจากการซื้อที่ดินบริเวณถนนศรีนครินทร์ โดยบริษัท แคพริคอร์น ฮิลล์ จำากัด
(ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ) และค่าก่อสร้างโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์
เงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน
230.4 ล้านบาท ลดลง 4,924.0 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งมีจำานวน เงินจ่ายล่วงหน้าแก่ผู้รับเหมาและเพื่อซื้อสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีจำานวน
5,154.0 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากเงินให้กู้ยืมแก่ ยู ซิตี้ ซึ่งจ่ายชำาระคืนทั้งจำานวน 1,827.8 ล้านบาท ลดลง 783.4 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 สาเหตุหลัก
ในเดือนมิถุนายน 2564 จากงานโยธาและการจัดหาระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
สำาหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง