Page 114 - BTSGroup ONE REPORT 2021/22_TH
P. 114

112                             l บทนำำ�  l ลัักษณะก�รประกอบธุุรกิจ l โครงสร้�งองค์กรแลัะผู้้้ถืือหุุ้้นำ l  ภาพรวมธุุรกิิจ  l ก�รกำ�กับดู้แลักิจก�ร l  งบก�รเงินำ l ข้้อมู้ลัอื�นำ ๆ  l





            หนี้สินรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เพิ่มขึ้น 24.8% หรือ 33,701 ล้านบาท เป็นจำานวน   ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีหุ้นสามัญที่ออกจำาหน่ายแล้วทั้งหมดจำานวน
            169,739 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของ   13,164.5 ล้านหุ้น (13,161.1 ล้านหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564) และมีอัตราผลตอบแทน
                                                                                      ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2564/65 อยู่ที่ 4.8% เทียบกับ 7.5% ในปี 2563/64
            (i)  เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ตั๋วแลกเงิน จำานวน 19,140 ล้านบาท
            (ii)  หุ้นกู้ระยะยาวสุทธิ จำานวน 9,790 ล้านบาท จากการออกหุ้นกู้ของบริษัทฯ จำานวน   กรุ๊ะแสเงินสด
                13,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 หักกลบบางส่วนจากการชำาระคืน   ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จำานวน 4,094
                หุ้นกู้ Green Bond (เงินต้นรวมจำานวน 13,000 ล้านบาท ที่ออกในเดือนพฤษภาคม   ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% หรือ 265 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ
                2562) ชุดที่ 1 จำานวน 1,000 ล้านบาทในเดือนพฤษภาคม 2564 และการชำาระคืน  มีเงินสดใช้ไปในกิจกรรมดำาเนินงาน จำานวน 8,995 ล้านบาท (เทียบกับเงินสดใช้ไปใน
                หุ้นกู้ของบีทีเอสซี (เงินต้นรวมจำานวน 22,000 ล้านบาท ที่ออกในเดือนพฤศจิกายน   กิจกรรมดำาเนินงาน จำานวน 14,077 ล้านบาท ในปี 2563/64) รายการหลักมาจากการ
                2559) ชุดที่ 2 จำานวน 2,200 ล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน 2564              บันทึกกำาไรก่อนภาษี จำานวน 5,095 ล้านบาท หักกลบบางส่วนด้วย (1) รายการที่ไม่ใช่
            (iii)  เงินกู้ยืมระยะยาวสุทธิจากสถาบันการเงิน จำานวน 8,964 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจาก  เงินสดปรับกระทบกำาไรก่อนภาษีให้เป็นเงินสด จำานวน 665 ล้านบาท และ (2) การลดลง
                การเบิกเงินกู้ยืมสำาหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง            สุทธิของเงินทุนหมุนเวียน จำานวน 13,425 ล้านบาท ซึ่งรวมถึง (a) การเพิ่มขึ้นของลูกหนี้
                                                                                      ภายใต้สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำานวน 7,618 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการ
            อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นบางส่วนถูกหักกลบด้วย                              เดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยายและ (b) เงินลงทุนสำาหรับค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า
                                                                                      สายสีชมพูและสีเหลือง จำานวน 5.3 พันล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯ จ่ายดอกเบี้ย จำานวน

            (iv)  หนี้สินทางการเงินไม่หมุนเวียนอื่นที่ลดลงจำานวน 1,801 ล้านบาท        4,211 ล้านบาท (3,230 ล้านบาท ในปี 2563/64) และจ่ายภาษีเงินได้สุทธิ จำานวน 2,242
            (v)  เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นลดลงจำานวน 1,317 ล้านบาท                ล้านบาท (2,405 ล้านบาท ในปี 2563/64) ทำาให้บริษัทฯ มีเงินสุทธิใช้ไปในกิจกรรม
                                                                                      ดำาเนินงาน จำานวน 15,448 ล้านบาท
            (vi)  ภาษีเงินได้ค้างจ่ายที่ลดลงจำานวน 1,017 ล้านบาท

                                                                                      ส่วนของเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน จำานวน 11,971 ล้านบาท รายการหลักมาจาก
            ส่วนของผู้ถือหุ้น จำานวน 86,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,090 ล้านบาท หรือ 13.3% จาก  (1) เงินสดจ่ายสุทธิซื้อเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำานวน 15,703 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจาก
            วันที่ 31 มีนาคม 2564 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มี  การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในยู ซิตี้ ในเดือนพฤษภาคม 2564 และจากการเข้าลงทุน
            อำานาจควบคุมของบริษัทย่อย จำานวน 8,189 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการ (1) การลงทุน   ใน Jaymart ของวีจีไอ (2) เงินลงทุนสุทธิสำาหรับค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู
            เพิ่มโดยผู้ถือหุ้นอื่นในวีจีไอ ผ่านการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (2) การชำาระค่าหุ้นเพิ่มทุน   และสีเหลือง จำานวน 8,144 ล้านบาท (3) เงินสดจ่ายสุทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการ
            เพิ่มเติมของบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำากัด (NBM) และบริษัท อีสเทิร์น   ลงทุน จำานวน 2,818 ล้านบาท จากการซื้อที่ดินบริเวณถนนศรีนครินทร์ โดยบริษัท
            บางกอกโมโนเรล จำากัด (EBM) (ซึ่งจัดตั้งขึ้นสำาหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและ   แคพริคอร์น ฮิลล์ จำากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และเงินลงทุนสำาหรับค่าก่อสร้าง
            สีเหลือง) จำานวน 1,346 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25% จาก STEC และ RATCH
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119