Page 37 - BTSGroup ONE REPORT 2021/22_TH
P. 37
บริิษััท บีทีเอส กริุป โฮลดิ้ิ�งส์ จำำ�กัดิ้ (มห�ชน) 2.3 MOVE 35
ริ�ยง�นปริะจำำ�ปี 2564/65
อัตรุ๊าค่าโดยุสารุ๊ในรุ๊ะบีบีรุ๊ถไฟฟ้าสีเขียุวสายุหลัก การุ๊ปรุ๊ะเม่ินปรุ๊ะสิทีธ์ิภาพัในการุ๊ดำาเนินงานของรุ๊ถไฟฟ้าบีีทีีเอสในปี 2563/64
ในช่วงแรก สัญญาสัมปทานกำาหนดโครงสร้างค่าโดยสารแบบราคาเดียว (Flat fare) ซึ่งต่อมา บีทีเอสซี ในฐานะผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังคงรักษาความปลอดภัยและการให้บริการที่
ได้ถูกแก้ไขให้เป็นการเรียกเก็บแบบตามระยะทางของการเดินทาง (Distance Based ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวชี้วัดหลักในการประเมินประสิทธิภาพในการดำาเนินงาน
Fare Structure) ค่าโดยสารที่บีทีเอสซีเรียกเก็บต่อเที่ยวสำาหรับการเดินทางระหว่าง ได้แก่ ความน่าเชื่อถือของการให้บริการ ความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้า และความน่าเชื่อถือ
สองสถานีในระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลัก คือ ค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้ ของตั๋วโดยสาร ซึ่งความน่าเชื่อถือของการให้บริการวัดจากเปอร์เซ็นต์ค่าความตรงต่อ
(Effective Fare) ภายใต้สัญญาสัมปทาน โดยจะต้องไม่เกินกว่าเพดานอัตราค่าโดยสาร เวลาในการเดินทางของผู้โดยสาร (Passenger Journey) โดยมีเป้าหมายในการวัดคือ
สูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้ (Authorised Fare) ซึ่งมีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ในส่วนของ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางได้ตรงเวลาไม่น้อยกว่า 99.5% เมื่อเทียบกับความล่าช้าที่เกิดขึ้น
การปรับเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้จากการเพิ่มขึ้นครั้งก่อนในเดือน ที่กินเวลาตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป ทั้งนี้ ความน่าเชื่อถือของการให้บริการในปี 2564/65
มีนาคม 2556 ตามที่ดัชนีราคาผู้บริโภคได้เพิ่มสูงกว่า 5% ในเดือนกันยายน 2564 จากนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 99.9% ตัวชี้วัดต่อมาคือ ความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้า วัดจากระยะทางก่อนที่
ทางบีทีเอสซี สามารถขอปรับเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้กับทาง กทม. จะเกิดการขัดข้อง โดยเป้าหมาย ที่ตั้งไว้คือไม่น้อยกว่า 35,000 ตู้กิโลเมตรต่อการขัดข้อง
โดยเพิ่มขึ้นได้อีก 7% เป็น 21.5 - 64.5 บาทต่อเที่ยว (จากเดิม 20.1 - 60.3 บาทต่อเที่ยว) 1 ครั้ง โดยในปี 2564/65 อยู่ที่ 162,123 ตู้กิโลเมตรต่อการขัดข้อง 1 ครั้ง ซึ่งสูงกว่า
ซึ่ง กทม. รับทราบคำาขอในเดือนเมษายน 2565 อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโดยสารที่ เป้าหมายที่ตั้งไว้ ตัวชี้วัดสุดท้ายคือ ความน่าเชื่อถือของตั๋วโดยสาร วัดได้จากจำานวน
เรียกเก็บได้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 16 - 44 บาทต่อเที่ยว เที่ยวการเดินทางก่อนพบการผิดพลาด รวมถึงการขัดข้องของอุปกรณ์และจากการใช้บัตร
โดยสารผิดวิธี โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นจะต้องไม่น้อยกว่า 15,000 ครั้งต่อการขัดข้อง 1 ครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ในรายงานประจำาปีของ BTSGIF โดยความน่าเชื่อถือของตั๋วโดยสาร สำาหรับปี 2564/65 อยู่ที่ 195,781 ครั้งต่อ
การขัดข้อง 1 ครั้ง ถือว่าทำาได้ดีกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ (ตารางที่ 2)
ี
ี
ี
�
ตารุ๊างที 2: ปรุ๊ะสิทีธ์ิภาพัในการุ๊ดำาเนินงานเปรุ๊ยุบีเทียุบีกับีเป้าหม่ายุ
ตัวช่ี้วัดปรุ๊ะสิทีธ์ิภาพั เป้าหม่ายุ 2563/64 2564/65
ความน่าเชื่อถือของการให้บริการ ไม่น้อยกว่า 99.5% ต่อความล่าช้าตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป 99.9% 99.9%
วัดจากความตรงต่อเวลาในการเดินทางของผู้โดยสาร
ความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า 35,000 ตู้กิโลเมตรต่อการขัดข้อง 156,089 162,123
ความน่าเชื่อถือของตั๋วโดยสาร ไม่น้อยกว่า 15,000 ครั้งต่อการขัดข้อง 194,678 195,781
โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว 1 โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2
โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากระบบรถไฟฟ้าสีเขียวสายหลัก ระยะทาง 12.75 กิโลเมตร เดือนมีนาคม 2560 บีทีเอสซีได้ลงนามในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำารุง
เริ่มเปิดให้บริการในปี 2552 ประกอบไปด้วยส่วนต่อขยาย 2 เส้นทางคือ ส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ครอบคลุมระยะเวลา 25 ปี (2560-2585) ระยะทางรวม
สายสีลม (สะพานตากสิน - บางหว้า ระยะทาง 7.45 กิโลเมตร 6 สถานี) และส่วนต่อ 32.0 กิโลเมตร ประกอบด้วย 2 เส้นทาง ได้แก่ ส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง - เคหะฯ
ขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช - แบริ่ง ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร 5 สถานี) ต่อมาในปี 2555 ระยะทาง 13.0 กิโลเมตร) และส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต - คูคต ระยะทาง 19.0
บีทีเอสซีได้ลงนามในสัญญากับเคทีในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำารุงส่วนต่อขยาย กิโลเมตร) โดยส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบครบทั้ง 9
ดังกล่าวเป็นเวลา 30 ปี (2555-2585) ทั้งนี้ สัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำารุงนี้ สถานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 สำาหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ
จะครอบคลุมถึงงานรับจ้างเดินรถและซ่อมบำารุงระบบโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวสายหลัก ได้เปิดให้บริการครบทั้ง 16 สถานี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563
ระยะทาง 23.5 กิโลเมตรภายหลังครบกำาหนดอายุสัญญาสัมปทานในเดือนธันวาคม 2572